เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติไต้หวัน เห็นว่าสัดส่วนการอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติในปัจจุบันซึ่งมีอยู่ 5ระดับ ได้แก่10%, 15%, 20%, 25%และ 35%ยังคงไม่สอดคล้องกับความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการโดยชี้ว่ามีการสะท้อนปัญหาขาดแคลนแรงงานจากผู้ประกอบการจำนวนมากว่าแม้จะได้รับคำสั่งซื้อสินค้าแต่เนื่องจากแรงงานไม่เพียงพอจึงไม่สามารถผลิตสินค้าได้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานระดับล่างจึงต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติไต้หวันเสนอแนวทางสองข้อ ได้แก่ ข้อที่หนึ่งการจัดกิจกรรมนัดพบแรงงานให้กับบริษัทหรือผู้ประกอบการที่ขาดแคลนแรงงานมากกว่า 30คนขึ้นไป และต้องติดตามดูความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิดรวมทั้งเพิ่มการให้บริการด้านข้อมูลต่างๆ แก่ผู้หางานเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการเพิ่มโอกาสการได้งานทำให้ครบถ้วนมากขึ้น ข้อที่สองต้องปรับเปลี่ยนสัดส่วนการอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติให้มีความเหมาะสมกับลักษณะของแต่ละอุตสาหกรรมให้มากขึ้นควรผ่อนปรนระเบียบการว่าจ้างโดยอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันควรจะได้รับสัดส่วนการอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติที่ไม่เหมือนกันโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่รัฐให้ความสำคัญ โครงการลงทุนใหม่ตลอดจนผู้ประกอบการที่ได้รับคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนอยู่
ทั้งนี้คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติไต้หวัน ชี้ว่าเนื่องจากสภาพแวดล้อมและเงื่อนไขในการทำงานสำหรับกิจการประเภท 3Kซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่งานหนัก สกปรก และมีความเสี่ยงไม่สามารถดึงดูดให้คนในประเทศเข้าไปทำงานได้อีกทั้งชาวไต้หวันมีมาตรฐานการศึกษาที่สูงขึ้น จึงไม่ต้องการที่จะทำงานในกิจการ3Kและต้องให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้