นโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานแรงงานต่างชาติ

– เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 สำนักงบประมาณ บัญชีและสถิติกระทรวงเศรษฐการไต้หวันเผยว่า ช่วงความต่างระหว่างรายได้สูงสุดและต่ำสุดมีแนวโน้มลดลงทุกปี โดยปี 2566 ลดลงเหลือ 4.05 เท่า ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อปีของพนักงานภาคอุตสาหกรรมและบริการในปี 2566 เท่ากับ 5.25 แสนเหรียญไต้หวัน หรือมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.22 ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้สูงสุดต่อปีของพนักงานภาคอุตสาหกรรมและบริการมีรายได้เท่ากับ 7.01 แสนเหรียญไต้หวัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.71 ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 7 ปี สาเหตุทำให้ช่องว่างระหว่างรายได้สูงสุดและต่ำสุดลดลงทุกปีนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มเงินเดือนขั้นต่ำ

– เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 กระทรวงสิ่งแวดล้อมไต้หวันและเว็ปไซต์จัดหางาน 104 รายงานว่า แนวโน้มการจ้างงานบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมามีอัตราเพิ่มขึ้นกว่า 3.29 เท่า โดยในปี 2567 มีบริษัทถึง 3.6 พันแห่งที่มีความต้องการบุคลากรที่เกี่ยวข้องด้านดังกล่าว โดยมีการเปิดรับสมัครเฉลี่ยเดือนละกว่า 2.2 หมื่นคน เงินเดือนเริ่มต้นเฉลี่ย 4.0 หมื่นเหรียญไต้หวัน ซึ่งสูงกว่าตำแหน่งงานอื่น ๆ ทั่วไปที่เดือนละ 3.7 หมื่นเหรียญไต้หวัน หรือมีส่วนต่างร้อยละ 8 และในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เงินเดือนเริ่มต้นโดยเฉลี่ยของผู้ที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 3.5 หมื่นเหรียญไต้หวันเป็น 4.0 หมื่นเหรียญไต้หวัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.3) โดยตำแหน่งที่มีเงินเดือนสูงสุดได้แก่ วิศวกรสิ่งแวดล้อมได้รับเงินเดือนเฉลี่ยที่ 1.0 แสนเหรียญไต้หวัน ผู้ตรวจสอบโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐาน ISO-14064-2 ได้รับเงินเดือนเฉลี่ยที่ 6.0 หมื่นเหรียญไต้หวัน ผู้เชี่ยวชาญที่มีใบรับรองด้านการบำบัดน้ำเสีย (ระดับ A หรือระดับ B) ได้รับเงินเดือนเฉลี่ยที่ 5.0 หมื่นเหรียญไต้หวัน นอกจากนี้ในปี 2567 ความต้องการบุคลากรที่ทำงานด้านดังกล่าว ยังได้ขยายไปสู่อุตสาหกรรมหลักอื่นๆ ได้แก่ อุตสาหกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ซอฟต์แวร์และเซมิคอนดักเตอร์ ที่มีความต้องการมากที่สุดโดยแต่ละเดือนเปิดรับสมัครจำนวนกว่า 4.3 พันตำแหน่ง รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมการผลิตเปิดรับสมัครเดือนละกว่า 3.2 พันตำแหน่ง อุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์มีต้องการเดือนละกว่า 2.7 พันตำแหน่ง อุตสาหกรรมค้าส่ง ค้าปลีกและขายตรงมีต้องการเดือนละกว่า 2.5 ตำแหน่ง และด้านกฎหมาย บัญชี ที่ปรึกษา งานวิจัยและพัฒนา งานออกแบบมีความต้องการเดือนละกว่า 2.3 พันตำแหน่ง